วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

อาการเหนื่อยบ่งบอกโรคได้

Kangzen Of ChiangRAI 
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

อาการเหนื่อยบ่งบอกโรคได้
ออกซิเจนเป็นสารที่จำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ ถ้าขาดออกซิเจน คนเราจะถึงแก่กรรมในระยะเวลาอันสั้น ...

การหายใจเป็นการนำออกซิเจนเข้าไปสู่ในปอด และแลกเปลี่ยนกับเลือดที่ไหลมายังปอด ออกซิเจนจะซึมเข้าไปในกระแสเลือด และไหลออกไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในภาวะปกติการหายใจจะเป็นสัดส่วนกับความต้องการออกซิเจนของร่างกาย ปกติแล้วการหายใจควบคุมโดยสมองส่วนกลาง โดยที่เราไม่ต้องคิดที่จะหายใจเอง

ในภาวะปกติเราจะไม่รู้สึกเหนื่อย อาการเหนื่อยเป็นความรู้สึกที่บอกตัวเราว่า เราต้องออกแรงหายใจมากกว่าปกติ จะเป็นเพราะเราต้องหายใจเอาอากาศเข้า-ออกเป็นปริมาณมาก ๆ หรือมีหลอดลมตีบทำให้หายใจลำบากขึ้นก็ได้ คนปกติจะไม่รู้สึกเหนื่อย ในขณะที่ใช้ชีวิตและทำงานอย่างธรรมดาประจำวัน แต่จะรู้สึกเหนื่อยเมื่อต้องออกกำลังมาก เช่น ในขณะที่เล่นกีฬา หรือต้องทำงานหนัก เช่น แบกของเป็นต้น การเหนื่อยง่ายถือว่าผิดปกติ ถ้าหาก

เมื่อออกกำลังหรือทำงานแล้วรู้สึกเหนื่อยในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่รู้สึกมีอาการเหนื่อยในขณะที่ทำงาน หรือออกกำลังซึ่งแต่เดิมสามารถทำได้โดยไม่มีอาการเหนื่อย ตัวอย่างเช่น แต่ก่อนเดิน 100 เมตรได้ไม่เหนื่อย แต่ในปัจจุบันเดินแล้วเหนื่อย อาการเหนื่อยอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากโรค และไม่ใช่โรค และอาจเกิดจากโรคที่มีอันตรายถึงตายได้ หากรักษาหรือแก้ไขไม่ทัน สาเหตุของการเหนื่อยง่ายจากโรคอาจแบ่งเป็น โรคหัวใจ โรคปอด โรคโลหิตจาง โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคของประสาท และกล้ามเนื้อ

สาเหตุของการเหนื่อยง่ายที่ไม่ได้เกิดจากโรคอาจแบ่งเป็น

ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากการขาดการออกกำลังกาย (Physical unfit)ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากเพิ่งฟื้นไข้ และขาดอาหาร ร่างกายอ่อนแอ เนื่องจากพักผ่อนไม่พอ มีความเครียดกังวลมาก ท้อแท้ หรือที่เรียกว่าเหนื่อยใจ

ผู้ที่มีอาการเหนื่อยง่ายควรจะไปพบแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการเหนื่อยง่ายเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ในการวินิจฉัยหาสาเหตุอาการเหนื่อยนั้น แพทย์จำเป็นต้องซักถามประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะระบบทางด้านปอด และหัวใจ นอกจากนั้นจำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อหาสาเหตุของอาการเหนื่อย

การตรวจโดยขั้นต้น ได้แก่

ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ตรวจปัสสาวะ (Urine exam) ตรวจเบาหวาน ตรวจการทำงานของตับ และไต ตรวจระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ เอกซเรย์ปอดและหัวใจ (Chest X-ray) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ตรวจสมรรถภาพปอด (Spirogram)

การตรวจขั้นต่อไป ถ้ามีการผิดปกติ เช่น มีประวัติและตรวจร่างกาย แนะนำว่าเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะมีคลื่นหัวใจที่ผิดปกติ และมีหัวใจโตในเอกซเรย์ ผู้ป่วยควรได้รับการตรวจแพทย์ทางด้านหัวใจต่อไป

ในกรณีที่พบว่าเป็นโรคเบาหวาน หรือต่อมไทรอยด์เป็นพิษต้องพบอายุรแพทย์ผู้ชำนาญทางด้านต่อมไร้ท่อ กรณีที่ผู้ป่วยมีโลหิตจาง จำเป็นต้องตรวจต่อ เพื่อดูว่าโลหิตจางเป็นจากการเสียเลือด หรือโรคเลือดโดยตรง หรือจากโรคมะเร็ง ซึ่งถ้าตรวจพบ ต้องไปพบแพทย์ผู้ชำนาญโรคเฉพาะทาง ถ้าเป็นร่างกายอ่อนแอเนื่องจากการขาดกำลัง และอื่น ๆ ตามที่กล่าวมา ควรพบแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เข้าโครงการทำ Physical Fitness ถ้าเป็นจากทางด้านจิตใจ ซึ่งเป็นกว่า 50% ของผู้ป่วย อาการเหนื่อยมักจะเป็นจากข้อนี้ อาจลองให้ยาคลายเครียด Reassure แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการทางด้านจิตมาก ก็ควรจะส่งแพทย์ทางด้านจิตเวช


ขอบคุณที่มา : zazana.com

ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คอลลาเจนคืออะไร??

Kangzen Of ChiangRAI
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

           คอลลาเจนคืออะไร??

          คอลลาเจนคือโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักๆของชั้นผิวหนัง ทำหน้าที่เป็นตัวประสานเนื้อเยื่อของผิวหนังเข้าด้วยกัน โดยโปรตีนชนิดนี้มีส่วนประกอบถึง 25% ถึง 35% ของจำนวนหน่วยโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย โดยมีมากที่สุดที่ผิวหนัง และ ประมาณ 1% ถึง 2% ที่ปะปนอยู่ในเซลล์กล้ามเนื้อ การผลิตเจลลาตินในอาหารได้จากกรรมวิธี การย่อยหน่วยคอลลาเจนที่เรียกว่า Hydrolysis

           หน้าที่ของคอลลาเจน

          คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่วๆไปเช่นเเดียวกับเอนไซม์ สายเส้นใยของคอลลาเจนถูกเรียกว่า คอลลาเจน ไฟเบอร์ (Collagen Fiber) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังที่มีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดีตามไปด้วย คอลลาเจนนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น อวัยวะภายในร่างกายเองก็ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน(cartilage), เส้นเอ็น(ligaments), ข้อต่อ (tendons),กระดูก (bone) สารคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน Keratin

          เคราติน Keratin, เคราตินมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวลดลง จึงเกิดริ้วรอยแห่งวัยขึ้นบนชั้นผิว, นอกจากนี้ เคราตินมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด ,มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่, รวมทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อกระจกตาและเลนส์ตาด้วย

          Hydrolyzed Collagen เองยังถูกใช้งานในแง่ของการลดน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของโปรตีนจึงมีข้อดีในการช่วยเผาผลาญพลังงานลดไขมัน ส่วนเกิน

          บทบาทคอลลาเจนในวงการอุตสาหกรรม

          เมื่อนำคอลลาเจนมาผ่านกระบวนการ Hydrolyzed สารคอลลาเจนจะแตกตัวออกเป็นสารเชิงซ้อนของคอลลาเจนเปปไทด์แบบ Polyproline II (PPII) หรือลักษณะของเจลาตินที่นำมาเป็นส่วนผสมของอาหารนั่นเอง นอกจากการใช้เป้นอาหารแล้ว คอลลาเจนยังใช้เป็นส่วนประกอบของยา เครื่องสำอางค์ และฟีล์มถ่ายภาพเมื่อพิจารณาในแง่ของอุตสาหกรรมอาหารแล้ว สารคอลลาเจนไม่ได้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่มีการประชาสัมพันธ์เชิงการค้าว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมคอลลาเจนต่างแสดง คุณสมบัติของสินค้าว่าสามารถยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและมีผลดีต่อ สุขภาพ ซึ่งยังไม่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ออกมาสนับสนุนการโฆษณาในลักษณะนี้

          คำว่าคอลลาเจน (Collagen) มีรากศัท์มาจากภาษากรีกจากคำว่า “Kolla” ที่แปลว่า กาว โดยเมื่อก่อนได้มีการทำกาวโดยการนำหนังและเอ็นม้ามาเคี่ยวจนกลายเป็นกาว ตามหลักฐานที่พบมีการใช้งานกาวลักษณะนี้มากว่า 8000 ปีแล้ว โดยใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเชือกและตระกร้าสานเพื่อให้มีความแข็งแรง และมีการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป กาวชนิดนี้เมื่อแห้งแล้วสามารถทำให้อ่อนนิ่มได้อีกโดยการให้ความร้อน เพราะกาวจากสิ่งมีชีวิตเป็น Thermoplastic ชนิดหนึ่งจึงมีการใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะการผลิกเครื่องดนตรีเช่น ไวโอลีน กีตาร์ แม้กระทั่งเมื่อมนุษย์สามารถผลิตพลาสติกสังเคราะห์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีการใช้งานกาวเจลาตินอยู่ทั่วไป

          บทบาทคอลลาเจนในวงการแพทย์

          คอลลาเจนมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในวงการศัลยกรรมความงาม ศัลยกรรมกระดูก การจัดฟัน และวงการศัลยกรรมทั่วไป เป็นส่วนประกอบของผิวหนังสังเคราะห์ที่ใช้ในผู้ป่วยที่สูญเสียผิวหนังเนื่อง จากอุบัติเหตุไฟไหม้ ซึ่งใช้คอลลาเจนสังเคระห์จากผิวหนังของลูกวัว(Bovine), หรือจากหมู (Equine, Porcine) บางครั้งจะใช้ผิวหนังจากผู้บริจาค หรือใส้ซิลิโคนสังเคราะห์แทน

          คอลลาเจนได้มีการจำหน่ายในลักษณะของ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนช่วยเคลื่อนไหว เนื่องจากคอลลาเจนเมื่อรับประทานเข้าไปจะย่อยสลายเป็นโปรตีนและกรดอะมิโนใน ที่สุด จึงช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอโดนวิธีรับประทานได้น้อยมาก ดังนั้น วงการแพทย์ในปัจจุบันจึงมีการใช้คอลลาเจนในแง่ของศัลยกรรมความงามมากที่สุด

วิธีที่จะเพิ่ม คอลลาเจนนั้น ทำได้หลายวิธี

การฉีดคอลลาเจนโดยตรง จากแพทย์
รับประทานอาหารที่ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ได้แก่ เบต้าแคโรทีน, วิตามินซี, วิตามินอี

ขอบคุณที่มา : wikipedia.org


ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ตำนานสปาของชาวโรมัน

Kangzen Of ChiangRAI 
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

ตำนานสปาของชาวโรมัน
การ "อาบนํ้า" กิริยาอาการของ การชำระร่างกาย ให้เกิดความสะอาด เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทั่วโลกมานานนักหนา เรื่องของการอาบนํ้าในทรรศนะของคนไทย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ความที่เราเป็นเมืองร้อน แต่โชคดีที่มีแม่นํ้าลำคลองมากมาย นึกอยากอาบนํ้าก็วิ่งลงลำธาร หรือแม่นํ้า กันจนเคยชิน การอาบนํ้าของคนไทย จึงดูเป็นเรื่องเล็ก และเราเองก็ไม่ เห็นว่าสำคัญจนน่าเอามาพูดถึงตรงไหน

อันนี้ต่างจากผู้คนอีกซีกโลกโดยสิ้นเชิงเลย การอาบนํ้าของผู้คนในแถบยุโรป ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ ก็เนื่องจากภูมิอากาศที่หนาวเย็นของเขา และยิ่งถ้าดูลึกเข้าไปถึง ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว คนที่ยกย่องเชิดชูการอาบนํ้าและวิธีการอาบจนเป็นเรื่องใหญ่ ของชีวิต น่าจะมีอยู่สองแหล่ง ที่แรกก็คือการอาบนํ้าของพวกตุรกี ที่เราเรียกว่า เตอร์กิช บาร์ธ หรือต้นแบบการอาบ อบ นวด ในเมืองเราทุกวันนี้ กับอีกที่ก็คือ การอาบนํ้า และวิธีการอาบนํ้า ของชาวโรมัน หรือ "สปา" ที่พวกเรารู้จักนั้นเอง

ชีวิตที่ติดกับความหรูหราของชาวโรมัน ทำให้สถานที่อาบนํ้าของชาวโรมค่อยๆ ขยายตัว จากความธรรมดาสู่ความหรูหรายิ่งขึ้นตามสไตล์ สถานที่อาบนํ้าสาธารณะแบบที่ดีที่สุดเรียกว่า เธอเม่-thermae ซึ่งมีทั้ง ห้องร้อน-laconicum ห้องอาบนํ้าร้อน-caldarium ห้องเย็น-tepidarium ห้องอาบนํ้าเย็น-frigidarium ครบครัน

เวลาคนโรมันจะอาบนํ้า พวกเขามักเริ่มต้นด้วยการเล่นเกมบอลเพื่อออกกำลังกาย ในห้องบันเทิงพิเศษให้เหงื่อออกเสียก่อน จากนั้นก็เข้าไปไล่เหงื่อให้ออกมากขึ้นในห้องร้อน แล้วก็ล้างผิวด้วยนํ้ามัน จากนั้นก็เดินไปอาบนํ้าด้วยนํ้าร้อนในห้องอาบนํ้าร้อน เดินต่อไปในห้องเย็น ปล่อยให้ตัวเย็น ก่อนจะต่อด้วยการลงแช่นํ้าเย็นในอีกห้องหนึ่ง เป็นอันครบเครื่อง มองดูแล้วคล้ายกับผสมผสานยิมเนเซียม เตอร์กิช บาร์ธ เซาน่า และสระว่ายนํ้าสาธารณะเข้าไว้ในที่เดียวกัน

ไปๆ มาๆ เธอเม่ ของโรม ก็กลายเป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับศูนย์การค้าของบ้านเราเดี๋ยวนี้ รัฐของโรมและคนร่ำรวยทั้งหลายนิยม ที่จะสร้างเอาไว้บริการคนแทบทุกมุมเมือง ทั้งในโรมและเมืองเล็ก เมืองน้อย ที่เป็นบริวาร ยิ่งกว่านั้น เธอเม่ เป็นที่นิยมทั้งคนร่ำรวย ที่มีปัญญาสร้าง ห้องนํ้า ไว้ใช้เอง (ห้องอาบนํ้าส่วนตัว balneum คล้ายกับ สระนํ้าที่มีขนาดเล็กกว่า ห้องนํ้าอย่างที่เรา คุ้นเคยเป็นปกติ) และคนยากจน เพราะความเป็นศูนย์รวม ไม่ว่าจะยากดีมีจนปานไหน ก็สามารถใช้บริการที่นี่ได้อย่างเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ เพื่อจะได้เห็น และเป็นเป้าให้ได้เห็น ทุกคนต้องการพบปะพักผ่อน และรับความบันเทิง กันทั้งนั้น

เธอเม่ ที่ว่า ปกติจะสร้างหรูหราพอๆ กับพระราชวังเลยล่ะ มีทั้งเสาหินอ่อน เพดานโค้ง พื้นประดับหินโมเสกอย่างหรู ติดตั้งทั้งนํ้าพุและรูปปั้น ว่ากันว่า เธอเม่ ที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งคือ คาราคัลลาในโรม กินเนื้อที่ถึง 28 เอเคอร์ และสามารถรองรับ คนที่มาใช้ บริการในคราวเดียวกันถึง 1,500 คน แต่ใหญ่ ขนาดนั้นแล้ว ก็ยังสู้เธอเม่ของจักรพรรดิ ไดโอคลิเชี่ยน ซึ่งอยู่ในศูนย์กลางของโรมไม่ได้!

แต่ก็มีคนโรมอีกบางส่วนไม่ ค่อยชอบใจ พวกเขาเห็นว่า การอาบน้ำเห็นจะเป็นการชักนำ เข้าไปสู่ความเสื่อมเสีย มากกว่า จะได้รับความชื่นใจในการอาบน้ำแต่เพียงอย่างเดียว การอาบน้ำแบบ รวมกันผู้หญิงผู้ชาย เป็นเหตุให้มีโสเภณี เข้ามาแฝงตัวขายสินค้าคู่โลก สถานอาบน้ำบางแห่ง ก็มีภาพรวมดีกว่าซ่องหน่อยเดียว บางแห่งความแน่นของผู้หญิงผู้ชาย ที่เข้ามาเปลือยกายรวมกันอยู่ในห้องอบความร้อน ทำให้เกิดปัญหาการมีชู้ และการเปลี่ยนคู่นอน ขัดกับศีลธรรม ในสังคมโรมอันที่เขียนเป็นหนังสือไว้อย่างจัง

ความมึนเมาก็เป็น อีกปัญหาที่ตามมาจากการใช้ เธอเม่ อันที่จริงอันนี้ก็น่าเห็นใจ เนื่องจากความร้อนในห้องอบ กับความร้อนจากการออกกำลัง ทำให้คนกระหายง่าย และชาวโรมก็หนีไม่พ้นการระงับอาการคอแห้งด้วยไวน์สักเหยือก ดับร้อนไปมา ในที่สุดก็เมา ผลสุดท้ายพาไปสู่การทะเลาะทุ่มเถียงการล่อลวงและฉกชิงทรัพย์สิน

ไหนจะปัญหาคนเมา ปัญหาระหว่างหญิงชาย ปัญหาพวกเสียงดัง โดยเฉพาะที่น่าหมั่นไส้มากที่สุดเห็นจะเป็นพวกเศรษฐีชอบอวดรวย มาอาบน้ำทีต้องเอาทาสมาคอยรับเสื้อผ้า ราคาแพงระยับ มีทาสมาคอยนวดน้ำมันเพื่อจะเอาที่ขัดขี้ไคล (strigil) ทำด้วยโลหะมีค่าออกมาอวด ดูแล้วเป็นเรื่องไม่เกี่ยวกับการอาบน้ำ ซึ่งมีจุดประสงค์ เดิมคือ การรักษาร่างกายให้สะอาดเอาเลย ชาวโรมส่วนนี้จึงอ้างว่า การอาบน้ำสาธารณะน่าจะพาคนโรมให้ออกห่างจากวิถีชีวิตที่ดีงามเสียแล้ว

อย่างไรก็ตาม เราได้แต่นึกถึงความรุ่งเรืองของโรมในอดีต ท่ามกลางซาก ปรักหักพัง ซึ่งครั้งหนึ่งกลาย เป็นสถานที่หรูหรารุ่งเรือง ซากอดีตพวกนี้บอกเราได้ดีว่า พวกเขาเจริญทางวัตถุกันมากเพียงใด ที่อาบน้ำสาธารณะนับเป็นงานชิ้นเอก อย่างหนึ่งของชาวโรมัน ไม่ว่าความสวยงามในการก่อสร้าง ความสำเร็จด้านวิศวกรรม คนโรมันรักการอาบน้ำ ยอมรับมันเป็นส่วนสำคัญของชีวิต ขนาดที่มีคำกล่าวไว้ว่า



ขอบคุณที่มา : kobnin-bloggang.com

ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แคปซูลยาทำจากอะไร?

Kangzen Of ChiangRAI 
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

แคปซูลยาทำจากอะไร?

แคปซูลยาผลิตจากเจลาติน ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากการแปรรูปคลอลาเจนที่มีอยู่ในผิวหนังและกระดูกสัตว์ อย่างไขกระดูกวัว และหนังหมู 

แคปซูลยาทำหน้าที่เป็นภาชนะบรรจุยาและนำส่งยาไปดูดซึมที่ลำใส้เล็ก แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดแข็งและชนิดนิ่ม แคปซูลชนิดแข็งมีสองส่วน คือ ตัวแคปซูลและฝาปิด เมื่อบรรจุยาแล้วจะนำตัวแคปซูลและฝามาเชื่อมต่อกันมีรูปแบบสวยงาม พกพาสะดวก กลบรสของยาได้ดี เหมาะสำหรับยาที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะอย่างยาปฏิชีวนะ

ส่วนแคปซูลชนิดนิ่ม จะผลิตเปลือกแคปซูลและบรรจุยาไปพร้อมกัน เหมาะกับยาที่ไวต่ออากาศและแสงมาก อย่างน้ำมันตับปลาและวิตามินชนิดต่าง ๆ

แคปซูลยาจากเจลาตินยังมีข้อจำกัดในการเก็บรักษา ดังนั้น จึงมีคนคิดค้นแคปซูลยาที่ผลิตจากแป้งข้าวบริสุทธิ์มาเพื่อใช้ทดแทน



ที่มาจาก : Mcot.net

แนะนำ >> คังเซน โปรจีน
ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/

ผิวสดใสในวัยผู้ใหญ่

Kangzen Of ChiangRAI
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

ผิวสดใสในวัยผู้ใหญ่
          เป็นเรื่องตลกร้ายที่ว่าสตรีในวัยทำงานมากกว่าครึ่งหนึ่ง ต้องต่อสู้กับปัญหาของผิวหน้าที่เป็นสิว รวมไปถึงต่อสู้กับรอยตีนกาไปพร้อม ๆ กัน ผู้ต้องหาหนึ่งในนั้นก็คือฮอร์โมน ซึ่งมีปริมาณลดลงในผู้หญิง ไม่ได้มีสม่ำเสมอเหมือนในผู้ชาย แพทย์หญิง โจเน็ธ อี เครี่, M.D.,Ph.D. ผู้ช่วยศาสตราจารย์โรคผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งเมืองไมอามี่ กล่าวว่า "เมื่อระดับเอสโตรเจนแกว่งขึ้นแกว่งลง-หรือในกรณีหมดรอบเดือน-คือการมีแอนโดนเจน ซึ่งคอยกระตุ้นต่อมน้ำมันน้อยลง ทำให้ผิวแตก"

          ผู้ต้องหาอีกอย่างหนึ่งก็คือความเครียด ซึ่งไปทำให้ระดับฮอร์โมนสูงขึ้น ซึ่งอย่างหนึ่งที่คุณต้องการคือไม่มีความเครียดเพื่อที่จะควบคุมสภาพผิวหนังให้ได้ มีการรักษาใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผิวสวยขึ้นอย่างง่าย ๆ แล้วยังช่วยลดสัญญาณของความแก่ให้ด้วย


          กำจัดริ้วรอยด้วยตนเอง

          การดูแลให้เป็นกิจวัตรนี้ช่วยต่อสู้กับสิว ซึ่งเกิดจากรูขุมขนอุดตันจากน้ำมันและเศษเซลผิวหนัง และการอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย P.Acnes แต่ที่ไม่เหมือนกับการรักษาด้วยการใช้ยาเฉพาะที่แบบที่วัยรุ่นทำกัน ซึ่งผลิตขึ้นมาสำหรับผิวที่มันกว่า เราควรใช้สูตรสำหรับผิวที่โตเต็มวัยที่มักจะแห้งและมีรอยย่นเห็นได้ชัดกว่า การดูแลจะต้องคำนึงถึงทั้งเรื่องของสิวและผิวที่แก่ด้วย โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ

        ซาลิซีลิค แอซิด ช่วยเปิดรูขุมขนและทำให้ผิวเรียบโดยกำจัดเซลที่ตายออกไป

        เรตินอยด์ มีคุณสมบัติเหมือนเรตินอล เป็นอนุพันธ์ของไวตามิน เอ ที่ช่วยรักษาสิว, ริ้วรอยเล็ก ๆ , และจุดที่เกิดจากแสงแดด และช่วยให้การผลัดผิวเป็นไปตามปกติ

        Humectant (สารให้ความชื้น) ช่วยจับความชื้น และต่อต้านการอักเสบ เช่นชาเขียว และ allantoin ที่ช่วยการอักเสบ



          ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อจัดการกับริ้วรอยที่มีอยู่และป้องกันไม่ให้ของใหม่เกิดขึ้น


          ตอนเช้า :

        ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน ให้ล้างหน้าด้วยซาลิซีลิค แอซิด แพทย์หญิงไดแอน เบอร์สัน, M.D. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาโรคผิวหนัง จากวิทยาลัยแพทย์ Well Medical College ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล และเป็นกรรมการของสมาคม American Acne and Rosacea Society กล่าวว่า "ซาลิซีลิค แอซิดจะเข้าไปในรูขุมขนและทำให้เศษของสิ่งต่าง ๆ หลุดออกมา" นอกจากนี้ เคริ ยังแนะนำว่า ให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เป็นเจล (เพราะอาจมีแอลกอฮอล์เจือปน) และยาขัดผิวที่ใช้ผงขัด ซึ่งจะไปขัดเอาผิวและน้ำมันออก ทำให้ผิวต้องออกแรงชดเชยด้วยการสร้างเซลใหม่มากเกินกำลัง

        รักษาบริเวณที่มีปัญหา หากผิวมีสิวอยู่ก่อนแล้ว ให้แต้มยาขจัดริ้วรอยที่มีซาลิซีลิคแอซิด หรือเบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เป็นการฆ่าแบคทีเรียที่ผิวและทำให้แห้ง หากคุณมีแนวโน้มที่จะมีสิวในบางบริเวณ (เช่นที่คาง) ให้ทาทั่วบริเวณนั้นทุกวัน เพื่อเป็นการป้องกัน

        หากผิวแห้ง ให้ใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่มีค่า SPF 15 หรือสูงกว่านั้น ให้เลือกชนิดที่อัลฟ่าไฮดร็อกซี่ แอซิด (หรือ AHA) อย่างเช่นกลัยโคลิค แอซิด (glycolic acid) เพื่อให้ได้ผลสองต่อ : คือ AHA จะช่วยลอกรูขุมขนในขณะที่เอาเซลที่ตายออกไป แล้วยังทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วย หากเป็นคนผิวมัน ให้ใช้ยาทากันแดดที่ปราศจากน้ำมัน (oil free) เนื่องจากรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตทำให้ผิวด้านนอกหนาขึ้น มันจะไปอุดรูขุมขนและทำให้เป็นสิวได้


         ตอนกลางคืน :

        ล้างเครื่องสำอางออกด้วยยาล้างที่อ่อนโยน เนื่องจากผิวหน้าจะผลัดผิวหนังได้ดีหากผิวสะอาด

        ทาครีมเรตินอล ครีม Retin-A เป็นครีมที่ต้องให้แพทย์สั่ง ได้รับการรับรองว่าสามารถรักษาสิวได้เป็นเวลานานมาแล้วก่อนที่จะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการต่อสู้กับรอยเหี่ยวย่น เครี่กล่าวว่า "เรตินอยด์ช่วยขจัดและสิวหัวดำไปจนถึงสิวอักเสบ รวมไปถึงสิวตุ่มแดง ๆ ที่อยู่ตามแนวกราม" ส่วนเรตินอลชนิดที่สามารถซื้อได้เองโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์นั้น จะใช้ได้ผลไม่มากเท่าแบบแรก แต่ระคายเคืองน้อยกว่าและเข้ากับผิวได้ดีกว่า

        ใช้มอยสเจอไรเซอร์ตามความจำเป็น ทาโลชั่นบนใบหน้าบ่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง


          แพทย์ช่วยอะไรได้บ้าง

          หากผิวของคุณไม่ตอบสนองต่อการทรีตเมนท์ ที่ทำเองที่บ้านภายในสองหรือสามสัปดาห์ หรือผิวเป็นตุ่ม ๆ ขึ้นมา (เช่นมีตุ่มคล้ายซิสท์ที่ใหญ่ เจ็บ แล้วอาจเป็นแผลเป็นได้) ให้ไปพบแพทย์ผิวหนัง แพทย์อาจใช้เรตินอลที่แรงขึ้นรวมทั้งครีมฆ่าเชื้ออย่างเช่นบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ เพื่อฆ่าแบคทีเรียและรักษาอักเสบ โบนัสที่ได้ก็คือ ยาที่แพทย์สั่งให้ใหม่นี้จะเหมาะกับผิวที่มีอายุและผิวแห้งกว่า เบอร์สัน กล่าวว่า "หากในสองสามเดือนยังไม่มีอะไรดีขึ้น แพทย์ก็สามารถเพิ่มเติมยาให้อีกได้" ซึ่งนอกเหนือจากนี้ก็ยังมีอาวุธอื่นที่จะต่อสู้กับสิว ได้แก่

        ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทาน คอร์สการใช้ยายาวนานระหว่าง 2 ถึง 6 เดือน ช่วยเร่งการรักษาโดยมุ่งไปยังรอยที่ลึก ๆ ยาเหล่านี้ จะไปตามกระแสโลหิต ดังนั้นมันจึงช่วยต่อสู้กับสิวที่เกิดบนแผนหลังและหน้าอกที่ยาเข้าถึงได้ยากด้วย

        ฮอร์โมนบำบัด เพื่อให้ระดับฮอร์โมนคงที่และลดอาการร้อนวูบวาบในวัยก่อนหมดรอบเดือน ผู้ป่วยมักได้รับยาคุมกำเนิดปริมาณต่ำ แต่ก็มีข้อโต้แย้งอยู่ นั่นคือ สตรีที่อายุเกิน 40 ไปแล้ว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงแบบเดียวกับที่เกิดจากการใช้ฮอร์โมนบำบัดในการรักษาอาการของการหมดรอบเดือน ซึ่งรวมไปถึงเส้นเลือดอุดตัน การให้ฮอร์โมนแบบนี้มักให้ร่วมไปกับการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน หรือบางทีก็อาจให้แต่ฮอร์โมนอย่างเดียว เช่น spironolactone ซึ่งเป็นฮอร์โมนต้านแอนโดรเจน มีผลในการลดการผลิตน้ำมันลง

        การบำบัดด้วยแสง การบำบัดแบบนี้ทำร่วมกับการบำบัดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มผลที่ได้ แสงสีฟ้าจะช่วยฆ่าเชื้อ P.Acnes ได้ชั่วคราวโดยการฉายนาน 15 นาที โดยปราศจากความเจ็บอย่างไรก็ตาม แบคทีเรียก็สามารถกลับมาได้อีก ดังนั้นจึงต้องทำต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งต้องใช้เงินราว 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วยังมีการรักษาแบบใหม่เพื่อดูดรูขุมขนขจัดเอาซีบัมส่วนเกินออกพร้อมกับใช้แสงเลเซอร์ฆ่าแบคทีเรียเรียกว่า lsolaz Pore-Cleansing Acne Treatment โดยทำสามถึงหกครั้ง ด้วยงบประมาณระหว่าง 300 ถึง 500 ดอลลาร์ ทั้งสองอย่างที่กล่าวมาต้องทำการติดตามผลทุกเดือน


แนะนำ >> คังเซน โปรจีน
ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม
http://www.kangzenofcr.com/14845008/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%99-%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99-kangzen-progene

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คังเซน เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ใหม่ “Senses of Kangzen”สุดอลังการ

Kangzen Of ChiangRAI
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

คังเซน เปิดตัว 5 ผลิตภัณฑ์ใหม่ “Senses of Kangzen”สุดอลังการ

คังเซน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างอลังการ ด้วย 5 รายการผลิตภัณฑ์ใหม่ แนว Well-Being ทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และเครื่องใช้ในครัวเรือน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Senses of Kangzen สัมผัสแห่งสุขภาพและความงาม” พร้อมดึง บุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล พรีเซ็นเตอร์สาวสวย ดีกรีนางสาวไทย ร่วมแชร์เคล็ดลับความงามให้ผิวขาว สวย ใส อย่างเป็นธรรมชาติ ณ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค เมื่อเร็วๆ นี้

นายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงหลายชั้น (MLM) ชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “คังเซน” กล่าวในงานอีเว้นท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้องใหม่ว่า “คังเซน ยังคงเดินหน้ามุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อนำเสนอแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกของเรามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น พร้อมก้าวสู่อนาคตข้างหน้าต่อไปอย่างมั่นคง โดยล่าสุด คังเซนได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แห่งความภาคภูมิใจจาก 3 กลุ่ม ทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และเครื่องใช้ในครัวเรือน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้านสุขภาพและความงามของทั้งคุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ได้แก่

1. มาส์กบำรุงผิว Kristine Ko-Kool Hyalos Blue Crystal Sleeping Mask เจลมาส์กบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้นที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกสภาพผิว ผลิตจากสารสกัดด้วยเทคโนโลยีนาโน 5 ชนิด เพื่อการดูแลผิวอย่างล้ำลึก เพื่อเช้าวันใหม่ที่ตื่นมาพร้อมกับผิวที่ขาวใส เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น เต่งตึง และกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ มาส์กแล้วนอนตื่นมาล้างหน้าปกติ แล้วคุณจะพบว่าผิวแลดูตึงกระชับ สดใส ขึ้น

2. Natesh Sanitary Pads Set ผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย นาเทสช์ แซนนิเทอรี่ แพดส์ เซ็ท ประกอบด้วย นาเทสช์ แซนนิเทอรี่ แพดส์ เดย์ (สำหรับกลางวัน), นาเทสช์ แซนนิเทอรี่ แพดส์ โอเวอร์ไนท์ (สำหรับกลางคืน) และผลิตภัณฑ์แผ่นนาเทสช์ แซนนิเทอรี่ แพนทีไลเนอร์ (แผ่นอนามัยระหว่างวัน) ทำให้มั่นใจกับทุกช่วงเวลา ในวันนั้นของเดือน จากส่วนประกอบหลักที่มีประสิทธิภาพการซึมซับสูง ทำให้รู้สึกแห้งสบาย เย็นสดชื่น ไม่อับชื้น ผลิตจากธรรมชาติ 100% ปราศจากสารเคมี

3. กาแฟ Healthi-Zen Coffee Collagen Plus ผลิตภัณฑ์กาแฟ นวัตกรรมต่อยอดจากยัวร์สลิมคอฟฟี่ ผสานคอลลาเจนเปปไทด์จากประเทศเกาหลี มากกว่า 16,000 มก. เป็นกาแฟสำหรับคนรักสุขภาพและต้องการบำรุงผิวพรรณ รสชาติที่อร่อยลงตัว

4. อาหารเสริม KK CAPSULE ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสำหรับสุภาพบุรุษ โดยมีถั่งเฉ้าจากทิเบตเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อคุณผู้ชายโดยเฉพาะ

5. Kangzen Alkali Filter เสริมแร่ธาตุ สร้างภูมิคุ้มกัน เพิ่มระดับออกซิเจน ปรับสมดุลภายในร่างกาย ด้วยไส้กรอง Alkali Filter”

งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คังเซน จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Senses of Kangzen สัมผัสแห่งสุขภาพและความงาม” เริ่มด้วยพิธีเปิดแบบสุดอลังการ ตามด้วยแฟชั่นโชว์ชุดพิเศษ นำทีมโดยสาวสวย สุดเซ็กซี่ ปุ้ย-อารยา เพ็ชรศิริ Miss Maxim Thailand 2014 ที่มาพร้อมเหล่าบรรดานางแบบและนายแบบ บุ๋ม-พรรณประภา ยงค์ตระกูล พรีเซ็นเตอร์สาวสวย ผลิตภัณฑ์ เพิร์ล นอริช ครีม (Pearl Nourish Cream) จากคังเซน โดยบุ๋ม ได้แชร์เคล็ดลับการมีสุขภาพผิวที่ดี ขาว สวย ใส อย่างเป็นธรรมชาติ ว่า “บุ๋มมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพผิวโดยเริ่มจากการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ รวมถึงการรับประทานวิตามินเพื่อเสริมสุขภาพ และที่สำคัญคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี มีประสิทธิภาพ อย่าง คังเซน – เคนโก ซึ่งบุ๋มใช้มาตลอดทำให้ผิวขาว ใส เป็นธรรมชาติมากๆ ค่ะ”  ด้านหนุ่มหล่อ สุขภาพดีอย่าง ต๊ะ-วริษฐ์ ทิพโกมุท ที่มาร่วมโชว์ลูกคอภายในงาน เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้อย่างล้นหลาม บอกถึงเคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลตัวเอง ให้สดชื่น สดใส และฟิต แอนด์ เฟิร์ม ว่า “ไลฟ์สไตล์ของผมทำงานค่อนข้างหนักมีเวลาพักผ่อนน้อย สำหรับเคล็ดลับส่วนตัวในการดูแลสุขภาพ คือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำที่สะอาด หรือน้ำเปล่า โดยเฉพาะน้ำแร่ ทำให้ร่างกายสดชื่นตลอดทั้งวันครับ”

บริษัท คังเซน-เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสมาชิกและผู้บริโภคโดยเฉพาะกับบูธให้ความรู้และแนะนำผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้ทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์แต่ละหมวดหมู่อย่างเจาะลึก พร้อมพบผลิตภัณฑ์คุณภาพจากคังเซน-เคนโก ในราคาพิเศษ สำหรับใครที่สนใจอยากจะใช้สินค้าคังเซนเคนโกหรือต้องการทดลองสินค้า ก็สามารถติดต่อตัวเแทนจำหน่ายคังเซนได้เลย

แนะนำ >> ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/

ปัญหาผิว ที่สาวเอเชียควรรู้ (Health plus )

Kangzen Of ChiangRAI
รู้เรื่องสวย รวยสุขภาพ

ปัญหาผิว ที่สาวเอเชียควรรู้ (Health plus )

          เมื่อหน้าร้อนมาเยือน สิ่งที่ทำเอาสาวเอาท์ดอร์ต้องกุมขมับ คงไม่พ้นเรื่องแสงแดด ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำสีผิวที่เข้มขึ้น แต่เคยสังเกตความผิดปกติอีกอย่างหรือเปล่า เมื่อสีผิวเกิดเข้มขึ้นเฉพาะจุด หรือในวงการแพทย์เรียกว่า Hyperpigmentation ฟังดูอาจจะไม่คุ้นหู แต่สาวเอเชียอย่างเรา ๆ ควรทราบไว้ เพราะมีผิวที่ไวต่อแสงแดด ดร.แดเนียล ยาโรช Senior Vice President, Basic Science Research จากเอสเตลอเดอร์ จะไขความกระจ่างให้กับคุณ

 Hyperpigmentation คืออะไร

          Hyperpigmentation คือ การเพิ่มของการผลิตเม็ดสีในเฉพาะจุด โดยทั่วไปแล้วมีมากมายหลายสีด้วยกัน โดยสีผิวเข้มขึ้นที่ว่านี้ไม่ได้เจาะจงไปถึงสีใดสีหนึ่ง แต่หมายความถึงการที่มีสีผิวที่เข้มกว่าสีผิวปกติ ซึ่งมีสาเหตุมาจากรังสียูวีเอ/ยูวีบี ร่องรอยการเกิดสิว จุดด่างดำที่เกิดมื่ออายุเพิ่มขึ้น (age spots) และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

 จุดด่างดำมีชนิดใดบ้าง และเกิดจากสาเหตุเดียวกันหรือไม่

          จุดด่างดำมีหลายชนิด โดยมี “เม็ดสี” คือ ตัวทำหน้าที่ของสีที่เห็นบนผิวของเรา รวมถึงรอยคล้ำและจุดด่างดำต่างๆ ซึ่งก็เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป

 ผิวสีเข้มขึ้นจากรังสียูวี (รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า จุดด่างดำที่เกิดมื่ออายุเพิ่มขึ้น หรือ age spots)

          เมื่อกระบวนการของเซลล์ผิวถูกกระตุ้นจากรังสียูวีจะทำให้เมลาโนไซต์ ทำงานมากเกินไปและไปกระตุ้นเอนไซม์ไทไรซีเนส ซึ่งทำให้มีการผลิตเม็ดสีเข้มมากเกินไป เป็นผลให้เกิดจุดด่างดำต่างๆ ขึ้น

 ผิวสีเข้มขึ้นจากแผลเป็น การติดเชื้อ หรือการระคายเคือง

          การระคายเคืองต่างๆ สามารถก่อให้เกิดจุดด่างดำได้ เช่น รอยถูจากการทำความสะอาดหน้าที่รุนแรงเกินไป รอยขีดข่วน บาดแผล การแพ้ การติดเชื้อ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิวฝ้า นอกจากนั้นแล้วกรรมวิธีในการรักษาผิวหน้าด้วยเลเซอร์ ก็สามารถก่อให้เกิดสีผิวเข้มขึ้นได้เช่นกัน

 ฝ้า (Melasma หรือ Chioasma)

          เกิดขึ้นเหนือริมฝีปาก โหนกแก้ม และคางในผู้หญิงวัย 20 ปีขึ้นไป โดยความเข้าใจทั่วไปแล้ว สิ่งนี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการถูกรังสียูวี ฝ้า (Melasma หรือ Chloasma) อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการตั้งครรภ์หรือใช้ยาคุมกำเนิด หรือยาชนิดอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน ซึ่งฝ้าที่เกิดจากกรณีหลังนี้จะค่อย ๆ หายไปเองเมื่อคลอดบุตรหรือหยุดใช้ยาดังกล่าว

 กระที่เกิดจากกรรมพันธุ์

          จุดเล็ก ๆ เหล่านี้จะติดตัวมาแต่กำเนิด สามารถมองเห็นได้เมื่ออายุ 3 ปี จะเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ และจะคงสภาพหรืออาจจางลงเล็กน้อยเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งยังพิสูจน์ไม่ได้ชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กับรังสียูวีหรือไม่ แต่ผู้ที่มีผิวขาว ผมแดง ผมทอง และตาสีฟ้านั้นมีแนวโน้มที่จะมีกระชนิดนี้มากกว่าผู้ที่มีผิว ผม และตาสีอื่น ๆ

 อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเม็ดสี และการทำงานของมัน

          เม็ดสี คือ ผิวสีคล้ำที่ถูกสร้างขึ้น เมื่อผิวได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้าทางธรรมชาติ คือ รังสียูวี การติดเชื้อ การแพ้ และบาดแผลต่าง ๆ เม็ดสีถกสร้างขึ้นจากเซลล์ เซลล์สร้างเม็ดสีที่เรียกว่า เมลาโนไซต์ (melanocytes) ซึ่งมีลักษณะเหมือนปลาหมึกยักษ์ที่มีแขนเล็ก ๆ มากมายสามารถยื่นไปสัมผัสกับเซลล์หนังกำพร้าที่ชื่อว่า คีราติ โนไซต์ เพื่อทำการแจกจ่ายเม็ดสี เมื่อผิวถูกทำลายระบบป้องกันผิวก็จะทำงาน โดยการส่งสัญญาณไปยังเมลาโนไซต์ให้เริ่มกระบวนการปกป้องกันผิว ส่งผลให้เมลาโนไซต์ปล่อยเม็ดสีโดยไปเปิดหัวนิวเคลียสของเซลล์ผิวออก ถ้าเม็ดสีถูกผลิตแบบไม่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง จุดด่างดำและความไม่สม่ำเสมอของสีผิวก็จะปรากฏให้เห็น


          เราสามารถควบคุม หรือกำจัดปัญหาเกี่ยวกับความเข้มขึ้นหรือจางลงของสีผิวได้หรือไม่

          เราสามารถรักษาจุดด่างดำที่เกิดจากฝ้า (Melasma Chiorasma) การมีสีผิวเข้มขึ้นเนื่องจากรังสียูวี ร่องรอยแผลเป็น การแพ้ การติดเชื้อ หรือการระคายเคืองเฉพาะจุดต่าง ๆ ได้ แต่เราไม่สามารถรักษาจุดด่างดำ หรือกระทำเกิดจากกรรมพันธุ์ได้

 ใครมีแนวโน้มที่จะเกิดสีผิวที่ผิดปกติ

          สีผิวที่มีเม็ดสีมากกว่า หรือสามารถตอบสนองต่อแสงแดดได้ไวกว่าตั้งแต่กำเนิดนั้น มีความเสี่ยงในการเกิดการเปลี่ยนสีผิวมากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้ว ปัญหานี้เกิดได้กับทุกคน ชนิดของสีผิวที่ผิดปกติขึ้นอยู่กับโทนผิวตามธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผิวของคุณมีเม็ดสีมากกว่า คุณก็อาจมีแนวโน้มในการเกิดจุดด่างดำ จากการระคายเคืองหรือร่องรอยจากสิวได้มากกว่า แต่ถ้าคุณมีสีผิวที่อ่อนกว่า คุณก็อาจมีแนวโน้มในการเกิดจุดด่างดำจากแสงแดดได้มากกว่าเช่นกัน

 ผิวของคนเอเชียไวต่อการเกิดสีผิวเข้มขึ้นหรือไม่

          แน่นอนว่า ผิวของคนเอเชียนั้นไวต่อแสงแดด และเกิดจุดด่างดำได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ๆ เพราะมีกระบวนการตอบโต้แสงแดดได้ไวกว่า เมื่อเกิดความเสียหายข้นกับผิวของคนเอเชียแล้ว กระบวนการผิวจะส่งสัญญาณไปยังระบบของเซลล์ทั้งหมด ซึ่งสามารถกระตุ้นการสร้างและจกจ่ายเม็ดสีได้ง่ายกว่า นอกจากนี้แล้วเรายังเชื่อว่ายีนก็เป็นตัวการหนึ่ง ที่ทำให้ผิวของคนเอเชียไวต่อการเกิดสีผิวเข้มขึ้น

 สีผิวเข้มขึ้นมีผลอย่างไรกับผู้หญิงที่เชื้อชาติต่างกัน

          สำหรับผู้หญิงฝรั่งขาว หรือคอเคเซียนจะมีสีผิวเข้มขึ้นในบริเวณที่ถูกแสงแดด ในรูปแบบของจุดด่างดำที่เกิดเมื่ออายุมากขึ้น และจะตามมาด้วยรอยเหี่ยวย่น สำหรับผู้หญิงแอฟริกัน อเมริกัน จะเกิดสีผิวเข้มขึ้นจากรอยแผลเป็นจากสิว สำหรับผู้หญิงเอเชียก็จะเกิดจุดด่างดำขึ้นเร็วกว่าผู้หญิงฝรั่งขาวหรือคอเคเซียน แต่ไม่ปรากฏรอยเหี่ยวย่นในภายหลัง และสำหรับผู้หญิงฮิสแปนิคนั้นจะมีการเกาะตัวของเม็ดสีในแบบที่เรียกว่า “มันชา”

กับสาวๆ ที่ชอบอาบแดดล่ะมีความเสี่ยงแค่ไหน

          Hyperpigmentation เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่การถูกแสงแดดถือเป็นตัวการสำคัญที่สุด ทั้งชาย และหญิงที่เคยอาบแดดเป็นเวลานาน จะเริ่มเห็นผลความเสียหายจากรังสียูวีเมื่ออายุมากขึ้น และเริ่มหาวิธีในการแก้ปัญหาเหล่านั้น บวกกับในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน การมีผิวที่สว่างกระจ่างใส กำลังเป็นที่นิยมและจุดด่างดำต่างๆ ก็สามารถมองเห็นได้ชัดในสีผิวแบบนี้
อะไรคือหนทางในการรักษา Hyperpigmentation แบบเฉพาะจุด

          ถ้าคุณต้องการปกป้องผิวจากความผิดปกติดังกล่าว สิ่งที่ง่ายที่สุด คือ การเลือกใช้เครื่องสำอางที่รับมือกับปัญหาสีผิวเข้มขึ้นเฉพาะจุด อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสาร Anti Oxidant ที่ถูกพบในสารสกัดมากมายจากพืช รวมถึงวิตามินอี วิตามินซี กรดเฟอรูลิก และโปรแอนโธไซยานิดินจากไวน์ โพลีฟีนอลจากชาเขียว เรสเวราทรอลจากไวน์ และเจนิสตินจากถั่วเหลือง โดยสารสกัดทั้งหมดนี้สามารถช่วยปรับให้สีผิวที่มีจุดด่างดำ ดูสม่ำเสมอขึ้นได้อย่างเห็นผล

แนะนำ >> ปรึกษาความสวยงามเพิ่มเติม +668-6917-6222 เอ็ม

เยี่ยมชมเว็บไซต์
http://www.kangzenofcr.com/
http://kangzenofcr.blogspot.com/