โรคด่างขาว
หลายคนคงจะรู้จัก โรคด่างขาว บางคนเรียก โรคสะเก็ดขาว มันก็โรคมะเร็งผิวหนัง นีเอง
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11พฤษภาคม 2551 เวลาประมาณ 10.00
น.วันนั้นกำลังจะเดินทางไป จ.ชลบุรี
ก่อนเดินทางก็นำรถยนต์เข้าปั๊มน้ำมันเพื่อจะเช็คลมยาง
บังเอิญมีรถยนต์ยี่ห้อเมอร์ซิเดส เบนซ์
คันหนึ่งกำลังเติมลมอยู่ก่อนแล้ว ก็เลยจอดรอเพื่อจะเช็คลมยางเป็นคันต่อไป
แต่เผอิญเจ้าของรถเมอร์ซิเดส เบนซ์
เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี
(เมื่อก่อนดื่มเที่ยวด้วยกันเป็นประจำ) เป็นนายตำรวจยศพันตำรวจโท
ปัจจุบันรับราชการอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปทุมวัน กรุงเทพ ฯ
ก็เลยลงไปสนทนาปราศรัยในฐานะเพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพรักและไม่ได้พบปะกันมานาน
สอบถามสารทุกข์สุขดิบกันตามประสา พี่คนนี้ลักษณะแกคล้ายๆ อี๊ด
วงฟลายแต่หน้าตาดีกว่า ลักษณะแบบนี้คงนึกออกนะว่าเป็นยังไง
แต่พอคุยจ้องหน้ากันมากๆ แกก็อายๆ อยู่บ้าง
เพราะไม่เจอนานหลายปี แต่ตอนนี้แกเป็นโรคด่างขาวขึ้นทั้งปากทั้งศีรษะกระ
ทั่งมือเต็นไปหมด
แกเล่าให้ฟังว่าวันจันทร์
ถึงวันศุกร์แกไปทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กรุงเทพ ฯ ไปอยู่คนเดียว
ครอบครัวไม่ได้ตามไปอยู่ด้วย วันหยุดราชการถึงกลับไปอยู่กับครอบครัวที่
จ.ระยอง เมื่อวันทำงานเวลารับประทานอาหารทุกมื้อ
*ลูกน้องจะเป็นผู้ไปซื้ออาหารมาให้ คือพี่แกเป็นคนรับประทานอะไรง่ายๆ
อาหารทุกอย่างจะใส่กล่องโฟมมาตลอด
แกบอกรับประทานอาหารที่ใส่กล่องโฟมแบบนี้ทุกมื้อเป็นเวลาประมาณ 2 ปี
*เท่านั้นแหละ โรคด่างขาวมันอาละวาด ลุกลามเต็มตัว และรวดเร็วมาก
ทุกวันนี้ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช แพทย์จะให้ยามาทาหลอดหนึ่งราคา
1,800.- บาท แกบอกรักษามา 6 เดือนแล้ว
ตอนนี้ดีขึ้นมากตั้งแต่นั้นมา แกบอกว่า เวลาลูกน้องไปซื้ออาหารห้ามใส่กล่องโฟมโดยเด็ดขาด ให้ใส่ถุงพลาสติคเพียงอย่างเดียว ซึ่งแพทย์บอกว่าถุงพลาสติคยังไม่ค่อยอันตรายเท่าไร เพราะกล่องโฟมเวลาโดนอาหารร้อนๆ จะมีสารชนิดหนึ่งละลายออกมาอยู่ในอาหารในกล่อง พอเรารับประทานเข้าไปมากๆ ก็จะเป็นผลเสียต่อร่างกาย
ที่เล่าให้ฟัง เพราะห่วงเพื่อนๆ และน้องๆ มาก ทุกวันนี้โรคภัยไข้เจ็บมันมีมากจริงๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง มันจะก่อเกิดมาจากอาหารการกินและอากาศที่เป็นพิษในบรรยากาศ ยังไงเกิดมาชาติหนึ่ง ร่างกายก็ไม่ใช่ของเรา ธรรมชาติให้เราเอามาใช้ (บางคนก็ใช้ชั่วคราวบางคนก็ใช้ถึง 70 - 80 ปีหรือมากกว่านั้น แล้วแต่อายุขัย) รักษาดูแลมันดีๆ หน่อย อย่าใช้มันให้สิ้นเปลื้องมากนัก ตามคำพระที่ว่าอโรคยา ปรมาราภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
ตอนนี้ดีขึ้นมากตั้งแต่นั้นมา แกบอกว่า เวลาลูกน้องไปซื้ออาหารห้ามใส่กล่องโฟมโดยเด็ดขาด ให้ใส่ถุงพลาสติคเพียงอย่างเดียว ซึ่งแพทย์บอกว่าถุงพลาสติคยังไม่ค่อยอันตรายเท่าไร เพราะกล่องโฟมเวลาโดนอาหารร้อนๆ จะมีสารชนิดหนึ่งละลายออกมาอยู่ในอาหารในกล่อง พอเรารับประทานเข้าไปมากๆ ก็จะเป็นผลเสียต่อร่างกาย
ที่เล่าให้ฟัง เพราะห่วงเพื่อนๆ และน้องๆ มาก ทุกวันนี้โรคภัยไข้เจ็บมันมีมากจริงๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง มันจะก่อเกิดมาจากอาหารการกินและอากาศที่เป็นพิษในบรรยากาศ ยังไงเกิดมาชาติหนึ่ง ร่างกายก็ไม่ใช่ของเรา ธรรมชาติให้เราเอามาใช้ (บางคนก็ใช้ชั่วคราวบางคนก็ใช้ถึง 70 - 80 ปีหรือมากกว่านั้น แล้วแต่อายุขัย) รักษาดูแลมันดีๆ หน่อย อย่าใช้มันให้สิ้นเปลื้องมากนัก ตามคำพระที่ว่าอโรคยา ปรมาราภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
ที่มา : เป็นเรื่องเล่าจากอีเมล์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น